เมื่อวันที่ 15 มิ.ยคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด. นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการติดสินบนเจ้าหน้าที่โดยการติดสติกเกอร์บนรถบรรทุก พร้อมด้วยคณะทำงานฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีตรวจสอบน้ำหนัก บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 หรือ M7 และ มอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 หรือ M9

นายมนตรี เปิดเผยว่า นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการติดสินบนเจ้าหน้าที่โดยการติดสติกเกอร์บนรถบรรทุก ได้มอบให้คณะทำงานฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอย่างเต็มที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ได้ให้คณะทำงานฯ กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ลงพื้นที่สุ่มตรวจสถานีที่เหลือและรายงานผลให้คณะทำงานฯ ทราบ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณามอบหมายแนวทางการดำเนินงานต่อไป

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้คณะทำงานฯ ได้ตรวจสอบสถานีฯ จำนวน 4 แห่ง โดยมี Check list ตรวจสอบการดำเนินงานว่าเป็นไปตามกระบวนการหรือเงื่อนไขหรือไม่ ประกอบด้วย ด้านเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์และเครื่องมือ และกระบวนการเข้าตรวจสอบน้ำหนักที่สถานีฯ สรุปผลได้ดังนี้

นายมนตรี กล่าวต่อว่า สถานีตรวจสอบน้ำหนักลำลูกกา (ขาออก) กม. ที่ 32+400 จ.ปทุมธานี สถานีตรวจสอบน้ำหนักบนมอเตอร์เวย์ M7 ลาดกระบัง (ขาออก) ทล.7 กม. ที่ 29+900 กรุงเทพฯ และสถานีตรวจสอบน้ำหนัก บางบ่อ (ขาเข้า) กม. ที่ 39+500 จ.ฉะเชิงเทรา พบว่า สถานีฯ ทั้ง 3 แห่ง มีการตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกโดยใช้เทคโนโลยีระบบตรวจสอบน้ำหนักยานพาหนะเคลื่อนที่ (WIM) ที่ติดตั้งก่อนถึงสถานีตรวจสอบน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลเมตร (กม.) เพื่อเป็นระบบคัดแยกประเภทรถและน้ำหนัก และมีการตรวจสอบน้ำหนักอีกครั้งด้วยระบบ Static ในกรณี WIM ตรวจพบค่าน้ำหนักเกิน และมีหน่วย Spot Check ซึ่งจะออกตรวจสัปดาห์ละ 3 วัน โดยรถบรรทุกที่วิ่งผ่านเส้นทางให้ความร่วมมือในการตรวจสอบน้ำหนักเป็นอย่างดี

สถานีตรวจสอบน้ำหนักบนมอเตอร์เวย์ M9 ลำลูกกา (ขาเข้า) ทล.9 กม. ที่ 36+500 จ.ปทุมธานี พบว่า สถานีฯ ใช้ระบบ Static ในการตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุก และมีหน่วย Spot Check ออกตรวจสัปดาห์ละ 3 วัน โดยมีรถบรรทุกวิ่งผ่านเส้นทางนี้จำนวนมาก ซึ่งบางช่วงเวลาอาจจะส่งผลกระทบต่อการจราจร จึงได้บูรณาการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต

นายมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับเครื่องชั่งน้ำหนักของทั้ง 3 ด่าน ได้รับการรับรองความเที่ยงตรงจากสำนักงานกลาง ชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ แล้ว ซึ่งจะตรวจมาตรฐานเพื่อต่ออายุหนังสือรับรองทุก 2 ปี ทั้งนี้คณะทำงานฯ ได้มีข้อสังเกตว่าในเส้นทางที่มีรถบรรทุกผ่านสถานีฯ จำนวนมาก บางคันไม่เข้าชั่งน้ำหนักที่สถานีฯ ได้รับคำชี้แจงว่าเป็นรถเปล่า ไม่มีสินค้าบรรทุก หรือมีใบชั่งน้ำหนัก คณะทำงานฯ จึงได้สุ่มตรวจรถที่ไม่ได้เข้าชั่งน้ำหนักไม่พบรถน้ำหนักเกิน นอกจากนี้จากการสอบถามหัวหน้าสถานีฯ พบว่า ทุกสถานีฯ มีปัญหาขาดแคลนอัตรากำลัง โดยคณะทำงานฯ ได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจำนวน 5 ข้อ ดังนี้

1.ให้ปรับปรุงข้อความบนป้ายก่อนเข้าสถานีฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน 2.ให้เร่งติดตั้งระบบ WIM ที่สถานีฯ ให้ครบทุกแห่ง 3.กำหนดมาตรการสุ่มตรวจรถที่ไม่เข้าชั่งน้ำหนักที่สถานีฯ ให้ชัดเจน มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น 4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมทางหลวง (ทล.) ตำรวจทางหลวง กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ต้องหารือร่วมกันถึงแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบน้ำหนัก รวมถึงการเชื่อมต่อระบบ GPS ในรถบรรทุกกับ ขบ. และ 5.พิจารณาแก้ไขกฎหมาย โดยเพิ่มโทษรถที่ไม่เข้าชั่งน้ำหนักที่สถานีฯ และไม่ผ่านการตรวจสอบน้ำหนัก

นายมนตรี กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้คณะทำงานฯ จะนำข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่ไปประมวลผล เพื่อนำเสนอคณะกรรมการฯ และเสนอกระทรวงฯ จัดทำแผนปรับปรุงและพัฒนาระบบที่ใช้กับสถานีฯ ต่อไป โดยประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนเกี่ยวกับส่วยสติกเกอร์บนรถบรรทุก ได้ที่เว็บไซต์กระทรวงคมนาคม www.mot.go.th และสายด่วนศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดต่อไป

กระทรวงฯ ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงตรวจสอบในทุกประเด็นเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงและเชื่อมั่นในการดำเนินการของกระทรวงฯ และหากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง กระทรวงฯ จะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นต่อไป

“คมนาคม” ตรวจด่านชั่งน้ำหนัก มอเตอร์เวย์สาย 7-9 เข้มสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก

admin